วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

บอยคอต




เอารูปของใช้ใกล้ตัวที่ต้องบอยคอตมาแปะ พี่น้องจะได้คุ้นๆตาค่ะ 

จากบริษัท Kimberly-Clark ซึ่งบริษัทนี้มีส่วนเสริมให้เศรษฐกิจของยิวแข็งแรงทีเดียว



โดย คิมเบอร์ลีย์-คลาร์ก คอร์เปอเรชั่น (Kimberly-Clark Corporation (NYSE: KMB) ครองอันดับ 1 ด้านธุรกิจสินค้าส่วนบุคคลเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในดัชนี Dow Jones Sustainability World Index (DJSI World)
          ทั้งนี้ ดัชนีการจัดอันดับ DJSI World จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมระยะยาวของบริษัทชั้นนำระดับโลกใน 57 ภาคอุตสาหกรรม :  สรุปข่าวเอเชียเน็ทประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2551

 
Kimberly-Clark is one of the largest consumer companies in the world with a turnover of $14 billion.
In 1998 Mr. Robert P. Van der Merwe, chairman of Kimberly-Clark Europe received the Jubilee Award by the Israeli Prime Minister Netanyahu. This is the highest tribute ever awarded by the "State of Israel" in recognition of those individuals and organizations, that through their investments and trade relationships, have done the most to strengthen the Israeli economy.
http://www.inminds.co.uk/boycott-kimberly-clark.html
http://www.kimberly-clark.com/thailand/AboutUs/Aboutus2.asp#E
 
 
 

จอห์นสัน & จอห์นสัน เป็นบริษัทข้ามชาติของอเมริกา

 

 

 
ขายสินค้ามากมายหลายชนิด เอาอันที่นิยมมาโฆษณาให้บอยคอตค่ะ








 
 
บอยคอตอิสราเอล


สินค้าจากอิสราเอล (ยิว) ที่นำรายได้ย้อนกลับมาทำลายพี่น้องมุสลิมโดยเฉพาะปาเลสไตน์





แผ่นพับ







โปสเตอร์ 1











โปสเตอร์ 2





ที่มา : blogspot อิสลามอินไทยแลนด์ 
http://islaminthailand.blogspot.com/2008/07/blog-post_39.html













อินทผลัมจากอิสราเอล



ที่มา :  musliminside
http://www.musliminside.com/forum/topic/show?id=2039734%3ATopic%3A17253


**
ช่วยกันนำภาพข้อมูลไปติดตามมัสยิด แหล่งชุมชนมุสลิม หรือส่งต่อทางเมล์ได้เลยค่ะ







อิสราเอล (ยิว) เป็นชนชาติที่ฉลาด บางประเทศต่อต้านสินค้าเขา เขาก็ส่งไปประเทศอื่นก่อน แล้วให้เป็นเทศอื่นส่งต่ออีกที
เรียกว่า ส่งสินค้าไปยังประเทศที่สาม
เช่น อินทผลัม Jordan River ที่มุสลิมไทยเรานำมาขายกันเกลื่อน นั้นก็เป็นของยิว






บางส่วนของบทความ "อิสราเอลส่งออกสินค้าไปยังประเทศอาหรับเพิ่มขึ้นในปี ค.ศ.2005"

การ ส่งออกสินค้าของอิสราเอลไปยังประเทศอาหรับอื่นๆมียอดเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 มีมูลค่า 12 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการส่งออกสินค้าจากอิสราเอลผ่านไปยังประเทศที่สามก่อนที่จะไปถึง ประเทศอาหรับปลายทาง เช่น เลบานอน สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เป็นต้น อิสราเอลส่งออกสินค้าไปยังโมรอคโคเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 มีมูลค่า 11.2 ล้านเหรียญ อิสราเอลส่งออกสินค้าไปยังอิรักเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ส่งไปให้กองกำลังของทหารสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ ในอิรัก

      จะเห็นได้ว่าอิสราเอลยังมีการค้ากับประเทศอาหรับและยังมีสินค้าบางอย่างที่ อิสราเอลนำเข้าจากต่างประเทศแล้วส่งออกต่อไปยังประเทศอาหรับเหล่านั้นด้วย เช่น อิสราเอลนำเข้าสินค้าอาหารจากไทยแล้วส่งออกต่อไปยังปาเลสไตน์ เลบานอน เป็นต้น ซึ่งประเทศอาหรับบางประเทศอิสราเอลก็ต้องส่งออกสินค้าไปผ่านประเทศที่สาม ก่อน ดังนั้นในการทำการค้าแล้วความขัดแย้งทางด้านการเมืองหรือความแตกต่างกันก็ อาจจะไม่เป็นปัญหาในการดำเนินธุรกิจ แต่อาจจะต้องใช้การทำการค้าผ่านประเทศอื่นแทนก่อน โดยเฉพาะปัจจุบันประเทศในตะวันออกกลางหลายประเทศเริ่มเปิดประตูกว้างขึ้น เลิกการห้ามทำการค้ากับอิสราเอล ทำให้มีโอกาสที่อิสราเอลสามารถจะขยายการส่งออกสินค้าไปยังประเทศอาหรับต่างๆ มากขึ้น ซึ่งผู้ส่งออกของไทยควรที่จะใช้โอกาสเหล่านี้ในการที่จะขยายตลาดไปยังประเทศ อาหรับเหล่านั้นผ่านอิสราเอลเป็นอีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือจากการที่จะทำการค้าโดยตรงกับประเทศอาหรับต่างๆเหล่านั้นด้วยทาง หนึ่งแล้ว จึงเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะขยายการส่งออกไปยังประเทศอาหรับต่างๆได้ เพิ่มมากขึ้นด้วย

      -----------------------------
 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ

กุมภาพันธ์ 2549

ที่มา : http://www.depthai.go.th/DEP/DOC/51/51007071.doc.
 
 
***************************
 
 
ญะซากิลลาฮฺค็อยร็อน ฟอร์เวิร์ดเมล์จากพี่นู และ เวป annisaa.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น