โพสต์ทูเดย์ — ชาวมุสลิมอินโดนีเซีย ประท้วงเดือดแทนปาเลสไตน์ บุกถล่มร้านอาหารอเมริกันพังยับ
เอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ว่า กลุ่มนักศึกษาชาวมุสลิมอินโดนีเซียถึงได้บุกเข้าถล่มร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐ เคเอฟซี ในเมืองปาลู จังหวัดสุลาเวสี เพื่อประท้วงกรณีที่อิสราเอลยังคงเดินหน้าถล่มฉนวนกาซา เป็นวันที่ 12 ติดต่อกัน
กลุ่มนักศึกษาราว 300 คน ได้ชุมนุมกันหน้าร้านเคเอฟซี โดยได้โบกธงชาติปาเลสไตน์ ไปพร้อมกับเผาธงชาติสหรัฐและอิสราเอล และได้ประณามอิสราเอลว่าเป็นชาติอาชญากรและผู้ก่อการร้าย ก่อนที่ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง จะบุกเข้าไปในร้านและพังโต๊ะเก้าอี้จนเสียหาย
“เคเอฟซีมาจากสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิสราเอล ดังนั้นการบริโภคสินค้าสหรัฐ จึงเท่ากับสนับสนุนเงินให้อิสราเอลโจมตีชาวปาเลสไตน์” มาฟูล ฮารูนา ผู้ประสานงานการประท้วง กล่าว
ทั้งนี้ ที่เมืองเซมารัง จังหวัดชวากลาง ตำรวจอินโดนีเซียสามารถสกัดการชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา ที่เตรียมก่อเหตุบุกเข้าทำลายบรรดาบริษัทห้างร้านสัญชาติตะวันตกได้
สำหรับสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลางนั้น ล่าสุด อิสราเอลได้เปิดแนวรบอีกด้านกับเลบานอนแล้ว โดยได้ยิงขีปนาวุธตอบโต้ใส่พื้นที่ทางใต้ของเลบานอน ซึ่งมีการยิงขีปนาวุธเข้าใส่พื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีรายหนึ่งของอิสราเอล เปิดเผยว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นในเลบานอน น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์ ที่ตั้งใจสร้างสถานการณ์เท่านั้น และไม่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น