วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

กาซาตอนเหนือกลับสู่ยุคหินไร้ปัจจัย 4 ดำรงชีพ

กาซาตอนเหนือกลับสู่ยุคหินไร้ปัจจัย 4 ดำรงชีพ [6 ม.ค. 52 - 05:39]

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์สู้รบภายในเมืองกาซาซิตี ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธฮามาส เมื่อ 5 ม.ค. ระบุว่าเป็นไปอย่างดุเดือดและโกลาหล ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 517 ศพ ภายในตัวเมืองไร้อาหาร น้ำ และไฟฟ้า ชาวบ้านต่างอยู่ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่อิสราเอลยังคงเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้หยุดยิงจากนานาชาติ ประกาศรุกคืบต่อ 

การสู้รบภาคพื้นดินระหว่างสองฝ่ายย่างเข้าสู่วันที่ 2 โดยกองทัพอิสราเอลสามารถปิดล้อมเมืองกาซาซิตีอย่างสมบูรณ์แบบ ขัดขวางการส่งกำลังพลและเสบียงสนับสนุนเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดอุโมงค์ขนส่งเสบียงบริเวณเมือง ราฟาห์ ทางตอนใต้ เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยุทโธปกรณ์ จากอียิปต์เข้าฉนวนกาซา ทำให้สถานการณ์ของฮามาสย่ำแย่ทุกขณะทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของปาเลสไตน์ระบุว่ากองทัพอิสราเอลได้เข้าสู่ตัวเมืองและปะทะกับนักรบฮามาสในระยะประชิด มียอดผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เริ่มโจมตีภาคพื้นดินเพิ่มเป็นอย่างน้อย 70 ศพ ส่วนอิสราเอลเผยว่า ทหารฝ่ายตนดับ 1 นาย บาดเจ็บ 55 นาย นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านบริเวณรอบเมืองถูกลูกหลงอีกจำนวนมาก ซึ่งจากรายงานมีเหยื่อรับเคราะห์เพิ่มอีก 12 คน จึงคาดว่ายอดผู้ตายสูงราว 530 คน โดยเป็นเด็กถึง 87 คน ส่วนสิ่งบรรเทาทุกข์จากสหประชาชาติและประเทศต่างๆ ก็ไม่สามารถส่งให้ชาวบ้านได้ตามเป้าที่กำหนด เนื่องจากคนขับรถกลัวถูกลูกหลง อย่างไรก็ตามกองทัพอิสราเอลอนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซา แต่มิได้ระบุว่ากองทัพจะหยุดการโจมตี

ด้านนานาชาติยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อหาทางยุติความรุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศสและประธานาธิบดี ดมิทรี เมียดแวเดียฟ แห่งรัสเซีย ต่างโทรศัพท์หานายกรัฐมนตรี เอฮุด โอลเมิร์ต แห่งอิสราเอล เพื่อเรียกร้องให้หยุดการโจมตีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา แต่ถูกปฏิเสธ ทำให้นายซาร์โกซีต้องเดินสายเจรจาในภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อหารือกับเหล่าผู้นำอาหรับและสหภาพยุโรปเป็นเวลา 2 วัน โดยการเจรจาได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อ 5 ม.ค.  

ขณะเดียวกัน ชาวมุสลิมทั่วโลกพร้อมใจเดินขบวนในประเทศของตน โดยมีผู้ร่วมประท้วงเพิ่มทุกขณะ รวมถึงไทย ที่มีชาวมุสลิมรวมตัวกันประท้วงหน้าสถานทูตอิสราเอลในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย ยังประกาศให้ทั่วโลกต่อต้านเงินดอลลาร์และสินค้าทุกชนิดที่ผลิตในสหรัฐฯ เนื่องจากสนับสนุนอิสราเอลในการโจมตี อนึ่ง วิกฤติความรุนแรงอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ส่งผลกระทบต่อค่าน้ำมันที่จากเดิม 46.34 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มเป็น 47.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล.


http://www.thairath.co.th/news.php?section=international&content=117923 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น